ส่องรัก ‘เจ้าหญิงญาณทิพย์แห่งนอร์เวย์’ กับ ‘หมอผีจอมฤทธิ์จากแอลเอ’

ส่องรัก ‘เจ้าหญิงญาณทิพย์แห่งนอร์เวย์’ กับ ‘หมอผีจอมฤทธิ์จากแอลเอ’ พสกนิกรยี้ลั่นกดดันไม่ยอมจบ

เจ้าหญิงมาร์ธา ลุยเซอ รัชทายาทลำดับที่ 4 แห่งราชบัลลังก์นอร์เวย์ ทรงบอกว่าพระองค์มีญาณทิพย์ ทราบความคิดคนอื่น และสามารถสนทนากับเทวดา ตลอดจนสิงสาราสัตว์ ในเวลาเดียวกันเจ้าหญิงทรงดำเนินพระไลฟ์สไตล์เป็นปกติเฉกเช่นชาวโลกทั้งผอง อีกทั้งยังทรงบริหารธุรกิจญาณทิพย์ส่วนพระองค์ร่วมกับอดีตพระสวามี (ช่วงที่ยังมิได้หย่าร้างกัน) เจริญรุ่งเรืองได้ในท่ามกลางกระแสกดดันร้อนแรงจากสาธารณชนชาวคริสต์ ซึ่งรับไม่ได้กับเรื่องพลังเหนือธรรมชาติ

ล่าสุดในรอบ 3-4 ปีมานี้ เจ้าหญิงมาร์ธาวัย 51 พรรษา แม่ม่ายหย่าร้างผู้มีพระธิดา 3 หญิง ทรงปลูกต้นรักหวานแหววกับหนุ่มอเมริกัน-แอฟริกัน ดูเร็ก แวร์เรตต์ ผู้ซึ่งประกาศตนเป็นหมอผีชาแมน ให้บริการบำบัดรักษาร่างกายและจิตใจของนานาเศรษฐีและคนดังด้วยพลังเหนือธรรมชาติ จนเป็นที่เลื่องลือนานปีอยู่ในถิ่นฮอลลีวู้ด สหรัฐอเมริกา โดยมีเซเลบชื่อก้องโลกมากมาย (อาทิ กวินเน็ธ พัลโทรว์, อันโตนิโอ แบนเดอรัส, เจมส์ แวน เดอร์บีก ฯลฯ) แห่กันเข้าไปใช้บริการต่อคิวยาวเหยียด ณ สนนราคาค่ารักษาอันสูงลิ่วถึง 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อครั้ง (60 นาที ตามรายงานของอีฟนิงสแตนดาร์ดเมื่อกลางปีที่ผ่านมา โดยอัตราในปี 2020 ซึ่งแวนิตีแฟร์รายงานไว้ อยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์ต่อครั้ง)

ทุกวันนี้ คู่รักไม่ธรรมดาทั้งสองท่านยังรักษาความจี๊ดจ๊าดหวานหยดแบบไม่มีแผ่วเลย แม้จะต้องเผชิญแรงกดดันหนักหนาจากปฏิกิริยาติดลบอื้ออึงของสาธารณชนนอร์วีเจียน ซึ่งไม่ยอมรับเรื่องพลังเหนือธรรมชาติของเจ้าหญิง เพราะมองเป็นเวทมนต์และขัดหลักการของคริสต์ศาสนา ยิ่งกว่านั้น คือรับไม่ได้เลยกับ “หมอผีพระคู่หมั้น” ซึ่งขายคอร์สบำบัดโรค ขายเหรียญพลังวิเศษรักษาโควิด 19 ตลอดจนขายไอเดียต่างๆ ที่ถูกสับเละว่าเหลวไหลไม่เป็นวิทยาศาสตร์พร้อมกันนั้น มีการวิพากษ์อย่างดุเดือดว่าปรินเซสมาร์ธา ลุยเซอ และหมอผีผิวหมึกอดีตเกย์/ไบเซ็กชวล ซึ่งจะขึ้นเป็นเขยหลวงของสมเด็จพระเจ้าฮารัลด์ที่ 5 ในภายภาคหน้า ได้ใช้สถานภาพเจ้าหญิงไปส่งเสริมการขาย และจึงกดดันให้พระองค์ลาออกจากพระยศเจ้าหญิง

ทันโลกข่าวต่างประเทศ

กระแสต่อต้านเจ้าหญิงมาร์ธา ลุยเซอ กันอย่างล้นหลาม ไม่ใช่เรื่องใหม่ ทรงโดนกดดันเป็นระยะๆ ตลอดหลายทศวรรษของพระชนม์ชีพ โดยกระแสต่อต้านได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ผ่านมา เจ้าหญิงทรงยอมถอยมา 3 รอบแล้ว ได้แก่ ยอมสละพระอิสริยยศเจ้าฟ้าหญิง – Her Royal Highness และเบี้ยหวัดปีละ 1 ล้านดอลลาร์ ในปี 2002 เพื่อยืนหยัดที่จะดำเนินธุรกิจการค้าส่วนพระองค์ และรอบที่สอง ทรงยอมที่จะไม่ใช้พระยศ “เจ้าหญิง” ในกิจกรรมทางธุรกิจส่วนพระองค์ หลังสาธารณชนกดดันมาราธอนกัดไม่ปล่อยเมื่อไตรมาส 3 ปี 2019

การถอยรอบที่ 3 เกิดขึ้นเมื่อ 8 พ.ย. 2022 โดยปรินเซสวัย 51 พรรษาทรงยอมยุติการเป็นผู้แทนพระราชสำนักในการปฏิบัติพระราชกิจทุกรูปแบบของพระราชสำนัก ตลอดจนยุติการเป็นองค์อุปถัมภ์ขององค์การทั้งหลาย อาทิ สถาบันลิวคีเมียแห่งชาติซึ่งอึดอัดมาแสนนานกับการที่หมอผีดูเร็กพระคู่หมั้นเผยแพร่แนวคิดการใช้พลังเหนือธรรมชาติบำบัดรักษาลิวคีเมียกระแสต่อต้านจากสาธารณชนในรอบที่ 3 ซึ่งกัดไม่ปล่อยเนิ่นนานเกือบครึ่งปี กว่าที่เจ้าหญิงจะทรงยอมถอย นั้น เปรี้ยงปร้างขึ้นหลังจากที่เจ้าหญิงทรงประกาศข่าวบนอินสตาแกรมว่าทรงหมั้นกับชาแมนดูเร็ก หมอผีคนดังจากฮอลลีวู้ด เมื่อ 7 มิ.ย. 2022 ทั้งนี้ ในหลายเดือนที่การต่อต้านยืดเยื้อและทวีความดุเดือดนั้น โพลที่จัดทำในเดือนก.ย.พบว่า ชาวนอร์วีเจียน 17% มีทัศนคติที่แย่ลงต่อสถาบันกษัตริย์ โดยส่วนใหญ่ระบุสาเหตุว่ามาจากเรื่องความสัมพันธ์ที่เจ้าหญิงมาร์ธา ทรงมีกับหมอผีดูเร็ก เจ้าของฉายา “ชาแมนดูเร็ก” หมอผีอเมริกัน-แอฟริกันผู้ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ด้วยคำรุนแรง เช่น คำที่เว็บไซต์ NewsinEnglish ของนอร์เวย์รายงานว่า นักต้มตุ๋นหลอกลวง

กระนั้นก็ตาม เส้นทางรักเกิดจะต้องสะดุดอย่างแรง เพราะมีโศกนาฏกรรมใหญ่หลวงอุบัติขึ้นในวันสำคัญดังกล่าว นั่นคือ อดีตพระสวามีของเจ้าหญิง นามว่า อาริ เบห์น (Ari Behn) ปลิดชีพตนเองเนื่องจาก อาริ เบห์น เป็นนักเขียนยอดป๊อบปูลาร์ที่ผู้คนในนอร์เวย์ชื่นชมและสงสาร ข่าวการทำอัตวินิบาตกรรมดังกล่าวจึงเป็นความสะเทือนใจอย่างยิ่งในหมู่ประชาชน ในการนี้ เจ้าหญิงมาร์ธาประทานสัมภาษณ์แก่นิตยสารแวนิตีแฟร์ว่า ทุกนิ้วพากันชี้มาที่พระองค์และพระคู่รักใหม่ ว่าเป็นต้นเหตุกดดันให้อดีตพระสวามีตัดสินใจฆ่าตัวตายเจ้าหญิงทรงบอกว่า ไม่น่าจะนำพระองค์เข้าไปโยงกับเรื่องนี้เลย ในเมื่อก็ได้หย่าร้างกันไปตั้งสามปีแล้ว และคุณอาริ เบห์น ได้มีคนรักใหม่แล้ว นอกจากนั้น การทำอัตวินิบาตกรรมนี้อาจเป็นผลจากปัญหาสุขภาพจิต ที่เขาที่เขาต่อสู้รักษาตัวอยู่อย่างเนิ่นนาน

ปมเรื่องนี้กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยใหญ่ยักษ์ที่โหมกระพือความรู้สึกต่อต้านเจ้าหญิงมาร์ธา เพราะลำพังที่ทรงบอกว่าพระองค์สามารถสื่อสารกับสิงหาราสัตว์ เทวดาและผู้ตาย ประชาชนมากมายก็รับไม่ได้แล้ว ครั้นเจ้าหญิงทรงหมั้นหมายกับหมอผีจากอเมริกา ซึ่งเป็นการเปิดทางให้หมอผีได้เข้าเป็นสมาชิกแห่งพระราชวงศ์ พสกนิกรในนอร์เวย์พากันรู้สึกว่าเจ้าหญิงทรงเกินเลยไปสุดโต่ง

ดังนั้น พอมามีกรณีอดีตพระสวามีตัดสินใจฆ่าตัวตายจึงยิ่งทำให้ความรู้สึกต่อต้านถูกโหมกระพือ โดยบางรายถึงกับส่งจดหมายขู่ฆ่าไปยังชาแมน และมีบางกลุ่มเร่งให้พระศาสนจักรลงดาบ บัพพาชนียกรรมเสียที เพื่อขับเจ้าหญิงมาร์ธาพ้นจากความเป็นชาวคริสต์ ขณะที่เสียงเรียกร้องให้ทรงลาออกจากตำแหน่งเจ้าหญิงก็อื้ออึง